วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บทประยุกต์อนุพันธ์ของฟังก์ชัน

1)  ค่าสูงสุดและต่ำสุดของฟังก์ชัน  (Maximum  and minimum values  of   function)
นิยาม  ฟังก์ชัน f  มีค่าสูงสุดสัมพัทธ์ ณ  ที่  x = c
        ถ้าในช่วงเปิดมีค่า c ที่ทำให้  f(c)  f(x)  สำหรับทุก ๆ  ค่า   x   ในช่วงเปิดนี้
                        high3.jpg
 ถ้า  f '(x) >0   เมื่อ x  น้อยกว่า c เล็กน้อย
แต่   f '(x) < 0  เมื่อ x  มากกว่า c เล็กน้อย
 แล้วฟังก์ชัน f มีค่าสูงสุดสัมพัทธ์  ที่ x  =  c   และค่าสูงสุดสัมพัทธ์เท่ากับ   f(c)
นิยาม    ฟังก์ชัน f  มีค่าต่ำสุดสัมพัทธ์   ณ   ที่     x   =   c
 ถ้าในช่วงเปิดมีค่า c ที่ทำให้  f(c)  f(x)  สำหรับทุก ๆ  ค่า x   ในช่วงเปิดนี้    
                    low3.jpg
ถ้า f '(x)<0  เมื่อ x  น้อยกว่า c เล็กน้อย แต่ f '(x)> 0 เมื่อ x มากกว่า c เล็กน้อย
 แล้วฟังก์ชัน f  มีค่าต่ำสุดสัมพัทธ์ที่ x = c   และค่าต่ำสุดสัมพัทธ์เท่ากับ  f(c)
นิยาม    ถ้า  c   เป็นจำนวนในโดเมนของฟังก์ชัน   f    และถ้า   f ' (c)   =   0
                                                          หรือ   f ' (c)   หาค่าไม่ได้
 จะเรียก c  ว่าเป็นค่าวิกฤตของฟังก์ชัน  f  และจุด   (c , f(c) )
               บนกราฟของ   f   ถูกเรียกว่า   จุดวิกฤตของกราฟของ   f  
 เมื่อทราบว่า  f ' (c)  = 0   แสดงว่า  c  เป็นค่าวิกฤตของฟังก์ชัน  ให้ระวังดังนี้
1.   c   อาจเป็นค่าวิกฤตที่ทำให้ฟังก์ชันมีค่าสูงสุดสัมพัทธ์  
                   high2.jpg
 ถ้ากราฟเป็นรูปคว่ำลง แล้ว f '' (x) < 0   แสดงว่า  f ''(c) < 0   ด้วย
2.   c  อาจเป็นค่าวิกฤตที่ทำให้ฟังก์ชันมีค่าต่ำสุดสัมพัทธ์  
                   low2.jpg
 ถ้ากราฟเป็นรูปหงายขึ้น  แล้ว f '' (x) >  0 แสดงว่า  f ''(c) > 0  ด้วย
  3.  c  อาจเป็นค่าวิกฤตที่ไม่ได้ทำให้ฟังก์ชันมีค่าสูงสุดสัมพัทธ์หรือค่าต่ำสุดสัมพัทธ์    เช่น       
slope2.jpg   slope1.jpg                     
  
            

  

 
ตัวอย่าง กำหนดให้  f(x)  =   อยากทราบว่าฟังก์ชันมีค่าสูงสุดสัมพัทธ์ที่ใด  และมีค่าเท่าใด
                 f (x)      =      
                 f '(x)     =    
   ให้        =    0    จะได้ค่าวิกฤตของฟังก์ชัน   x  =  
  ตรวจสอบจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดสัมพัทธ์     
             f ' '(x)  =      =    -12 x
   นำค่าวิกฤตของฟังก์ชัน    x =      แทนค่าใน     f ' '(x)  
 จะได้     f ' '(   )    =       <    0
และ   f ' '(    )    =       >    0  
     แสดงว่าที่   x   =         จะเป็นจุดสูงสุดสัมพัทธ์
  ดังนั้นฟังก์ชันมีค่า สูงสุดสัมพัทธ์ที่    x    =    
 ฟังก์ชันมีค่า สูงสุดสัมพัทธ์      =      f ( )
                                  =         =   

ตัวอย่าง  กำหนดให้  f(x)  =     แล้ว อยากทราบว่าที่จุด  x  =  2
           จะทำให้ฟังก์ชันมีค่าเท่าไร
               จาก         f(x)      =      
                                   f ' (x)     =     
 แทนค่า   x    =   2     ใน   f ' (x)  
        จะได้      f ' (2)     =           =   0
              แสดงว่า     x    =   2     เป็นค่าวิกฤตของฟังก์ชัน
  ตรวจสอบจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดสัมพัทธ์   
     f ' ' (x)       =    
     แทนค่า   x    =   2   ใน   f ' ' (x)  
                 f ' ' (2)     =      =    48    มีค่ามากกว่า    0
           แสดงว่าที่     x    =   2     จะเป็นจุดต่ำสุดสัมพัทธ์
 ฟังก์ชันมีค่า ต่ำสุดสัมพัทธ์ =  f(2)  =  =  - 15                                                      
        
 ค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์
นิยาม    ฟังก์ชัน   f    มีค่าสูงสุดสัมบูรณ์บนช่วงหนึ่งช่วงใด
  ถ้ามีจำนวน   c   ที่อยู่ในช่วงนั้นซึ่ง  f(c)    f(x)   สำหรับทุก ๆ  ค่า x  ในช่วงนั้น
  กรณีเช่นนี้    f(c)   เป็นค่าสูงสุดสัมบูรณ์ของ   f    บนช่วงนั้น
นิยาม    ฟังก์ชัน   f    มีค่าต่ำสุดสัมบูรณ์บนช่วงหนึ่งช่วงใด
ถ้ามีจำนวน   c   ที่อยู่ในช่วงนั้นซึ่ง  f(c)    f(x)  สำหรับทุก ๆ  ค่า x  ในช่วงนั้น
  กรณีเช่นนี้    f(c)   เป็นค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของ   f    บนช่วงนั้น
นิยาม     f(c)   เป็นค่าสูงสุดสัมบูรณ์ของ ฟังก์ชัน   f    ถ้า  c  อยู่ในโดเมนของ   f
  และถ้า   f(c)    f(x)   สำหรับทุก ๆ  ค่า   x   ในโดเมนของ   f
นิยาม     f(c)   เป็นค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของ ฟังก์ชัน   f    ถ้า  c  อยู่ในโดเมนของ   f
  และถ้า   f (c)    f(x)   สำหรับทุก ๆ  ค่า   x   ในโดเมนของ   f
 ค่าสูงสุดสัมบูรณ์คือ  ค่าสูงสุดจริง ๆ              ค่าต่ำสุดสัมบูรณ์คือ  ค่าต่ำสุดจริง ๆ
หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย  ค่าสูงสุดมักจะเป็นค่าสูงสุดสัมพัทธ์  และค่าต่ำสุดมักจะเป็นค่าต่ำสุดสัมพัทธ์
การกำหนดค่าสูงสุดสัมบูรณ์ และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชันต่อเนื่องf ช่วงปิด [a,b]           มีขั้นตอนดังนี้
        1.   หาค่าของฟังก์ชันที่จุดวิกฤตของ   f   บนช่วงปิด    [a , b]
        2.   หาค่า   f(a)   และ    f(b)
        3.   ค่ามากที่สุดจากข้อที่  1  และข้อที่  2  เป็นค่าสูงสุดสัมบูรณ์
              ค่าน้อยที่สุดจากข้อที่  1  และข้อที่  2  เป็นค่าต่ำสุดสัมบูรณ์
 บทประยุกต์ค่าสูงสุดและค่าต่ำสุด                                                           
หลักการพิจารณาหาค่าต่ำสุดและค่าสูงสุด
1.  อ่านโจทย์ให้ละเอียด   ค้นหาปริมาณที่โจทย์ถามหาค่าต่ำสุดหรือค่าสูงสุด
      แล้วสมมุติให้เป็น   y   เป็นตัวปริมาณที่โจทย์ถามหาค่าต่ำสุดหรือค่าสูงสุด
2.   สมมุติให้  x เป็นตัวเปลี่ยนต้นที่แทนปริมาณที่ทำให้  y  เปลี่ยนแปลง
3.  ให้สถานการณ์ได้ว่า    y   =   f(x)
4.  ดำเนินการตามขั้นตอนในการหาค่าต่ำสุดหรือค่าสูงสุดของฟังก์ชัน
     4.1 การหาค่าสูงสุดสัมพัทธ์  และค่าต่ำสุดสัมพัทธ์โดยใช้   และ  เข้าช่วย
               -  หา     
              -   ให้        =   0    แก้สมการ
                   หาค่า  x  สมมุติให้   x   =  c  "ค่าวิกฤต"   ตรวจสอบต่อดังนี้
    ถ้า     /  x  =  c   <   0   (c, f(c) )
    เป็นจุดสูงสุดสัมพัทธ์และฟังก์ชันมีค่าสูงสุดสัมพัทธ์  =   f (c)
    ถ้า     /  x  =  c   >  0  (c, f(c) )
    เป็นจุดต่ำสุดสัมพัทธ์และฟังก์ชันมีค่าต่ำสุดสัมพัทธ์  =   f (c)
    4.2   หาค่าสูงสุดสัมพัทธและจุดต่ำสุดสัมพัทธ์  โดยใช้กราฟ

ตัวอย่าง  สนามรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งมีพื้นที่  2700  ตารางเมตร   ต้องการล้อมรั้ว
โดยรอบและ รั้วแบ่งครึ่งสนาม    ซึ่งรั้วสำหรับแบ่งครึ่งสนามราคาเมตรละ 80   บาท
ส่วนรั้วโดยรอบ สนามราคาเมตรละ 120 บาท จงหาขนาดของสนามซึ่งจะเสียค่ารั้ว
น้อยที่สุด
 วิธีทำ   ให้สนามยาว   x  เมตร          และกว้าง    y   เมตร
         ให้ค่าทำรั้วทั้งหมดเป็น     f(x)
 ดังนั้น     f(x)    =    120 ( 2 x + 2 y )  +   80  y    
                     =     240 x  +  320 y
   แต่พื้นที่สนามทั้งหมดเท่ากับ    2700    ตารางเมตร
   เพราะฉะนั้น           x y       =         2700
                             y       =         
  นั่นคือ                   f(x)    =        240 x  +  320  
     x  ต้องอยู่ในช่วง  ( 0 ,  + )    และ  f ต่อเนื่องตลอดช่วงนี้
        f '(x)      =        240   -   
   ให้    f '(x)     =           0     
    240   -        =           0
           =           0
                                =          3600
                      x          =         60
ดังนั้น  60   เป็นค่าวิกฤตของ  f
ใช้อนุพันธ์อันดับ  2   ทดสอบว่า    f(60)     เป็นค่าต่ำสุดหรือไม่
   f '' (x)   =         ซึ่งมีค่ามากกว่า      0
แสดงว่า  f(60)
 เป็นค่าต่ำสุดสัมพัทธ์ของ  f ซึ่งมีเพียงค่าเดียวใน  (0, )
เพราะว่าสนามมีพื้นที่เท่ากับ   x y    =    2700
                           ถ้า    x   =   60     จะได้    y    =    45
 ดังนั้นสนามจะต้องกว้าง 45  เมตร ยาว 60  เมตร  จึงจะเสียค่ารั้วน้อยที่สุด
ตัวอย่าง  ถังเปิดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งมีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส   และมีปริมาตร125  ล.บ.เมตร
ค่าวัสดุที่ใช้ ทำก้นถังตารางเมตรละ160 บาท  และวัสดุสำหรับด้านข้างตารางเมตรละ 80 บาท
จงหาขนาดของถังที่มีความจุเท่าเดิมแต่เสียค่าวัสดุน้อยที่สุด
วิธีทำ     ให้ถังมีฐานยาวด้านละ     x       เมตร
            ถังมีความสูง             y       เมตร
         ถังนี้มีปริมาตร       =       = 125    ล.บ.เมตร ...........(1)
ให้    f(x)     เป็นค่าวัสดุที่ใช้ทำถัง
      f(x)   =  
              =  
  จาก (1)     ได้       y       =      
                    f(x)         =      
 โดเมนของ    f      คือ    ( 0 ,   )
                     f ' (x)      =       
  เมื่อ      x   =    0     เราหาค่า      f ' (x)    ไม่ได้
     แต่    x    =    ไม่อยู่ในโดเมนของ   f  
  ให้                     f '(x)    =     0
            =      0
           =      0
                                   =     125
                         x           =       5
 ดังนั้น        5   เป็นค่าวิกฤตของ       f
 ใช้อนุพันธ์อันดับ   2   ทดสอบว่า f(5)    เป็นค่าต่ำสุดสัมพัทธ์หรือไม่
   f ' ' (x)         =              ซึ่งมีค่ามากกว่า    0
 แสดงว่า  f(5) เป็นค่าต่ำสุดสัมพัทธ์ของ  f   ซึ่งมีเพียงค่าเดียวใน (0 , )
  เพราะว่า  ปริมาตรของถังคือ                  =   125
             ถ้า   x  =    5    จะได้      y     =     5
    ดังนั้นจะต้องทำถังซึ่งมีฐานจัตุรัสด้านละ   5  เมตร    และสูง    5   เมตร
        จึงจะได้ถังมีปริมาตรตามต้องการและเสียค่าวัสดุน้อยที่สุด
ที่มา:www.thaigoodview.com/library/teachershow/.../2-diff_use1.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น